ผบ.ฉก.43 ขอโทษเจะฆูสอนตาดีกา หลังเกิดกระแสสังคมไม่พอใจที่ทหารพกปืนเข้าห้องเรียน

ปัตตานี – ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ขอโทษเจะฆูสอนตาดีกา บ้านบากง ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังเกิดกระแสสังคมไม่พอใจที่มีทหารได้พกปืนสงครามเข้าห้องเรียนขณะเด็กกำลังเรียนหนังสือ สร้างความวิตกให้ครูและเด็ก

วันนี้ (19 ต.ค.) ความคืบหน้ากรณีมีเจ้าหน้าที่ทหารสะพายปืนสงครามและเป้สนามเข้ามาภายในห้องเรียนสอนศาสนาในโรงเรียนตาดีกา หรือศูนย์อบรมจริยธรรมเยาวชน ประจำมัสยิดบ้านบากง ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งได้สร้างความหวาดกลัวและหวั่นวิตกให้เด็กและเจะฆู ครูสอนตาดีกาเป็นอย่างมาก จึงมีการโพสต์ภาพและเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านเฟซบุ๊ก จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซลเซียลเป็นวงกว้าง ถึงความเหมาะสมที่เจ้าหน้าที่แต่งชุดนักรบสนามอาวุธครบมือเข้ามาในห้องเรียนของเด็กเยาวชนที่กำลังเรียนหนังสือเรื่องศาสนาตามความเชื่อ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563ที่ผ่านมา

โดยมีพฤติกรรมลักษณะเหมือนจะมาตรวจค้น มีการบันทึกภาพเด็กและครูผู้สอนโดยไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการแต่อย่างใด จึงทำให้ครูที่เป็นสุภาพสตรีทั้งหมด 8 คน กำลังทำหน้าที่สอน รู้สึกไม่ปลอดภัยจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายไว้เป็นหลักฐานเกรงจะเกิดอันตราย แต่กลับถูกทหารชุดดังกล่าวชี้หน้า ห้ามถ่าย ทำให้ครูผู้สอนยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวมากขึ้น ถึงแม้ภาพทหารพกสะพายปืนสงครามมาที่โรงเรียนเกือบทุกวันที่มีการเปิดสอนตาดีกาแล้วก็ตาม

หลังจากมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวผ่านสื่อโซเซียล ก็มีพฤติกรรมลักษณะคล้ายจะกดดันหรือคุกคาม เจะฆูครูผู้สอน ให้เปิดเผยตัวตนที่เป็นคนถ่ายรูปดังกล่าวออกผ่านสื่อโซเซียล ยิ่งทำให้เกิดภาวะกดดันให้กับครูผู้สอนเพิ่มเป็นทวีคูณ

จนกระทั่งล่าสุดวันนี้ (19 ต.ค.) นายเจ๊ะอูเซ็ง สาแม โต๊ะอีหม่ามประจำมัสยิดฯ คณะกรรมการมัสยิด รวมทั้งชาวบ้านออกมารวมตัวกันบริเวณลานหน้ามัสยิดบ้านบากง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ทหารโดยมี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทหารพราน 43 พร้อมนำเจ้าหน้าที่ทหารที่ปรากฏในวันดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน พร้อมได้ขอโทษต่อกรณีดังกล่าว และรับที่จะไม่ให้เกิดเหตุกรณีเช่นนี้อีกต่อไป จึงสร้างความอุ่นใจให้กับเจะฆูครูผู้สอนตาดีกาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก เพราะครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเคสแรกแต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก

ตัวแทนครูผู้สอนตาดีกาบากง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานจะเข้ามาโดยใช้ข้ออ้างว่ามาเยี่ยม ในครั้งล่าสุดที่เข้ามามีการพกอาวุธและเป้สนาม เมื่อเข้าในห้องเรียนจะเจ้าหน้าที่อีกคนที่คอยถ่ายรูป ในขณะนั้นมีครูผู้สอนเป็นผู้หญิงทั้งหมด 8 คน เจ้าหน้าที่จะมาเกือบทุกอาทิตย์ หากไม่ใช่ทหารพรานก็จะเป็นทหารหมวกแดง ในครั้งล่าสุดดิฉันได้ยกมือถือมาถ่ายรูปด้วย แต่กลับโดนเจ้าหน้าที่ ชี้หน้าว่า บาป ถ่ายไม่ได้

ตัวแทนครูผู้สอนตาดีกา กล่าวเพิ่มเติมว่า เสนอว่าหากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าในตาดีกา ให้เข้าเดือนละครั้ง หรือว่า 2 เดือนครั้ง แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มา เพราะจะเสียเวลาเรียน ทำให้เด็กและผู้สอนรู้สึกกังวล

นายเจ๊ะอูเซ็ง สาแม อีหม่ามมัสยิดบ้านบากง ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้เสนอไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องเพียงว่า ในครั้งต่อไปหากจะเข้ามาให้ติดต่อประสานมายังอีหม่ามเสียก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่จะโทรประสานงานว่าจะมาทำกิจกรรมกับทางมัสยิดเกือบทุกครั้ง แต่ในส่วนของตาดีกาจะประสานมาบ้างบางครั้ง

พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 กล่าวต่อกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่พกอาวุธเข้าไปในสถานศึกษาตาดีกาที่บ้านบากง ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กล่าวว่า เป็นปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน สิ่งหนึ่งที่สะท้อนคือนโยบายในการลดภาพของทหารต่อชาวบ้าน จะต้องนำไปทบทวน ทุกอย่างจะนำไปแก้ไข เพราะความรู้สึกในใจของชาวบ้านสำคัญกว่า ส่วนการปฏิบัติในครั้งนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ผิดคำสั่ง แม้ว่าตัวผมเอง ความผิดพลาดของผู้บังคับบัญชา และคงจะไม่ปล่อยปะละเลย และส่วนใครจะลงทัณฑ์ผมคงต้องเป็นท่านแม่ทัพ หากถูกตำหนิผมต้องยอมรับ

ต่อกรณีที่มีเจ้าหน้าที่โทรมาข่มขู่ครูผู้สอนว่าจะเอาผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.อ.หาญพล กล่าวว่าต้องขออภัย การเอาผิดทางโซเชียลไม่ได้เป็นแนวทางการทำงานขอผม สิทธิทางโซเชียลเป็นปกติที่ถูกระจายไป สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในสมัยผม ผมจะเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหน้าที่ตามคำสั่ง

เครดิต MGR Online ภาคใต้

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *