เตรียมออกหมายเรียก 9 พันรายเอี่ยวโกงแจ้งความอีก 800 ร้านค้า

ตร.เตรียมออกหมายเรียกชาวบ้าน 9,000 รายร่วมโกงโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ขณะที่ ‘กรุงไทย’ เตรียมแจ้งความกองปราบ เอาผิดโรงแรม-ร้านค้า เพิ่มอีก 800 แห่งทั่วประเทศ

 

รายงานความคืบหน้า กรณีกองบังคับการปราบปรามดำเนินการตรวจสอบเอาผิดโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่ทุจริตฉ้อโกงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จนนำไปสู่ปฏิบัติการกระจายกำลังเข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 55 จุด ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 50 ราย และเตรียมขยายผลเอาผิด ก่อนเตรียมขยายผลเอาผิดประชาชนที่ร่วมทุจริตโครงการ ซึ่งเฉพาะโรงแรมณัฐชญา รีสอร์ท จ.ชัยภูมิ พบผู้กระทำผิดกว่า 9 พันคน นั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า จากรายงานของฝ่ายสืบสวนพบว่าผู้กระทำผิดกว่า 9 พันราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งภายในสัปดาห์หน้ากองบังคับการปราบปรามจะส่งประเด็นการสอบสวนไปที่พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ เพื่อพิจารณาออกหมายเรียกบุคคลเหล่านั้นมาสอบสวนต่อไป นอกจากนั้นทีมสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยังได้รับข้อมูลจากธนาคารกรุงไทย ว่า พบพิรุธของโรงแรมอีกกว่า 400 แห่ง และร้านค้าอีกกว่า 400 แห่ง ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า ว่า ในสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติปภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งเรียกตำรวจระดับรองผู้บังคับที่คุมงานสอบสวนทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการวางแนวทางการทำคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยคาดว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะมาป็นประธานเปิดการประชุมดังกล่าว สำหรับแนวทางในการประชุมครั้งนี้ กองบังคับการปราบปรามจะเป็นเหมือนพี่เลี้ยงคอยวางกรอบประเด็นการสอบสวนต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับตำรวจทั่วประเทศใช้ในการสืบสวนขยายผลต่อไป

พ.ต.อ.เอนก กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ต้นสัปดาห์หน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งเจ้าหน้าที่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีโรงแรมอีกกว่า 400 แห่ง และร้านค้าอีกกว่า 400 แห่ง ที่ทุจริตโครงการนี้ ซึ่งมีทั้งตัวการใหญ่ลงมาถึงประชาชนจำนวนมาก

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญตำรวจกองบังคับการปราบปราม ไปร่วมประชุมวางแผนอุดช่องโหว่โครงการรัฐ ทั้งนี้การทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกันนั้น พบว่าที่ผ่านมา มีตั้งแต่เปิดยอดการจองโรงแรมและใช้สิทธิ์ซื้อของในร้านค้าและร้านอาหาร ทั้งหมดจะมีบริษัทตัวกลางคอยรับทำหน้าที่อีกที โดยเงินที่ได้จากรัฐบาลจะผ่านไปที่ธนาคารก่อนจะไปเข้าบริษัทตัวกลาง เพื่อนำไปกระจายให้ตามโรงแรมร้านค้าร้านอาหารต่างๆ เท่าที่ผ่านมาพบว่า บริษัทตัวกลางไม่มีความสงสัยไม่มีการตรวจสอบว่ามียอดจองโรงแรมเกินจริง ทั้งที่บางโรงแรมมี 10 กว่าห้อง แต่ยอดจองเป็นเป็น 100-1,000 ห้อง ขณะเดียวกันยังพบว่ามีการจองโรงแรมจังหวัดหนึ่ง แต่เดินทางไปรับประทานอาหารหรือซื้อสินค้าอีกจังหวัดหนึ่งด้วย ทั้งหมดนี้บริษัทตัวกลางไม่เคยได้ตรวจสอบ เพราะมีหน้าที่คอยหักค่าเปอร์เซ็นต์จากการเป็นตัวกลางในการจองโรงแรมและซื้อของตามร้านค้าและทานอาหารตามร้านอาหารเท่านั้น

ที่มา สำนักข่าวอิศรา

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *