ลูกคลั่งใช้ปืนทำร้ายแม่ เผาบ้านที่ปัตตานี (มีคลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 31 ตค. ร.ต.อ.สมปอง สุขเหลือ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายและเผาบ้านมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยนาเกลือ 23 ม.8 ต.บานา จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลเมืองปัตตานีและหน่วยกู้ภัยท่งเต็กเซียงตึ้ง

เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังรุกไหม้หลังคาผ้ายางและรถ จยย.ที่จอดไว้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 96/143 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้นติดกันประมาณ 10 ห้อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากบ้านตรงข้ามเลขที่ 96/144 มีเหตุลูกใช้อาวุธปืนทำร้ายมารดาได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวพร้อมตะโกนให้ออกมามอบตัว ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เจ้าหน้าที่จึงได้ออกห่างเพื่อความปลอดภัย และเมื่อเข้าตรวจสอบพบหญิงสูงวัยพยายามคลานออกมาจากบ้านอย่างสะบักสะบอมใบหน้าบวมและมีเลือดจำนวนมาก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อ นางมธุรดา จอมเกาะ อายุ 60 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุได้ปิดประตูบ้านหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องนอน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังรุกไหม้หวั่นลามไปติดบ้านข้างเคียง ใช้เวลา 15 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนบุคคลภายในบ้านปลอดภัย

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกชายของ นางมธุรดา ทราบชื่อ นายอัครเดช จอมเกาะ อายุ 40 ปี มีร่างกายพิการขาขวาขาดตั้งแต่หัวเข่า และมีอาการทางประสาท เนื่องจากเสพยาเสพติด โดยก่อนเกิดเหตุทั้งสองแม่ลูกอยู่บ้านด้วยกัน ระหว่างนั้นได้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง นายอัครเดชจึงได้หยิบปืน ขนาด 9 มม.ออกมาข่มขู่ผู้เป็นแม่ ซึ่งแม่เองก็พยายามร้องขอให้เก็บปืน แต่ยิ่งทำให้นายอัครเดชเกิดคลุ้มคลั่งก่อนจะใช้อาวุธปืนทุบตีแม่ตนเองอย่างรุนแรงหลายครั้งจนแม่สลบคาบ้าน เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามตะโกนให้หยุดทำร้ายแม่ กลับถูกนายอัครเดชยิงปืนขู่ก่อนที่จะเอาน้ำมันมาราดหน้าบ้านก่อนจะจุกไฟเผา ทำให้ นางเงาตา เพชรศิริ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านกับลูกและหลานรวม 5 ชีวิตต้องปีนกำแพงชั้นสองหลังบ้านหนีไปอยู่บ้านเพื่อนบ้าน

กระทั่ง เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเรียกให้นายอัครเดชออกมาเจรจาที่ประตู หว่านล้อมให้ออกมามอบตัว แต่นายอัครเดชพูดคุยไม่รู้เรื่อง วนไปวนมา หน้าตาเมอลอย คล้ายคนเมายาเสพติด กระทั่งนายอัครเดชได้เปิดประตูเหล็กหน้าบ้านและไม่มีอาวุธในมือ เจ้าหน้าที่จึงฉวยจังหวะเผลดเข้าไปบุกชาร์จตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะใส่กุญแจมือนำขึ้นรถไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี

นายอัครเดช เผยสาเหตุที่ตนทำ เพราะแม่ไม่เคยเข้าใจตน ซึ่งตนกล่าวว่าทุกอย่างนั่นมันมีต้นสายปลายเหตุ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ตนไม่สงสารแม่ เพราะแม่ทำกับตนมามาก ตนรู้ทุกอย่าง และสิ่งที่แม่บาดเจ็บนั้น ตนเจ็บยิ่งกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง8

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *