จนท.ยะลา รุด ตรวจสอบสอบ หลัง พบ รถ จยย.พาคนร้ายเหตุปล้นรถยนต์นำไปทำคาร์บอมบ์ หลบหนี ด้านหน่วยข่าว เชื่อ สองพี่น้องฝาแผดตระกูลหลำโส๊ะ ทีมก่อเหตุ
ความคืบหน้าเหตุ คนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 คน อาวุธครบมือ ปล้นรถยนต์กระบะจากพนักงานส่งสินค้า แล้วนำไปซุกระเบิด แสวงเครื่องแบบประกอบในถังแก๊สปิกนิคขนาด 5 กิโลกรัม บรรจุ ANFO และสะเก็ดเหล็กเส้นตัด น้ำหนักรวม ลูกละ 28 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง จากนั้นได้นำไปจอดทิ้งไว้หลังแฟลตตำรวจ สภ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดไว้ได้ทัน โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ชุด สืบสวนคดีความมั่นคงตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ติดตามเบาะแสของกลุ่มคนร้ายอย่างใกล้ชิด
ซึ่งหลักฐานที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้าย ที่เป็นคนขับรถยนต์ สวมเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด สวมผ้าคลุมคล้ายผ้าฮิญาบ และสวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้าสวมถุงมือสีฟ้า เพื่อป้องกันการทิ้งร่องรอยให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัว เป็นผู้นำรถยนต์ที่ปล้นมามาจอดหลังแฟลตตำรวจ สภ.รามัน จ.ยะลา จากนั้น คนร้ายที่ขับรถยนต์ได้ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกคนจอดรออยู่ เพื่อพาหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทาง พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้สั่งการด่านตรวจ ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนขับขี่ พบว่าเป็นยี่ห้อสตาร์เลี่ยน ตามทะเบียนพบว่าเป็นทะเบียนปลอม ที่บนป้ายระบุว่า 1 กจ-113 ยะลา ซึ่งจากการค้นหาทะเบียนพบเพียงทะเบียนหมายเลข 1 กจ- 113 เบตง
ล่าสุด พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิเวช บุญยรัตกลิน รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.อ.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผบ.ร.152/รอง ผบ.ฉก.ยะลา เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จ.ว.ยะลา และ จนท.จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจักรยานยนต์ต้องสงสัย จากเหตุชิงรถยนต์กระบะขนส่ง ของบริษัทเคอรี่ในพื้นที่บ้านรั้วตะวัน หมู่ที่ 7 ต.บุดี อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งผู้ต้องสงสัยได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมายังบ้านเช่าเลขที่ 8/14-15 หมู่ที่ 1 บ้านบุดี ต.บุดี อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่น สแมช 110 ซีซีสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใกล้กันพบหมวกกันน็อก สีแดง ตั้งอยู่ สำหรับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคนร้ายได้ใช้สีสเปรย์สีดำพ่นทับสีเดิมซึ่งเป็นสีน้ำเงิน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา ได้นำรถคันดังกล่าว ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายเอกสิทธิ์ โตะแต อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ที่ 4 ต.บุดี อ.เมืองยะลา จ.ยะลา สามีเจ้าของบ้านเช่า เล่าให้ฟังว่า “ ภรรยาของตนจะไปติดต่อกับผู้ที่ขอเช่าบ้าน เพื่อต้องการเจอตัว เพราะยังไม่ได้ทำสัญญาบ้านเช่าอะไรเลย โดยผู้ที่จะมาขอเช่าบ้านว่าจะมาทำทีหลัง นี่ ก็หลายวันแล้ว วันนี้ก็เลยเข้ามาดู พอเคาะประตูบ้านก็ไม่มีใครได้ยิน สงสัยว่าจะมีคนหรือเปล่า แต่ว่าภรรยาก็มีกุญแจสำรองอยู่แล้ว ก็เลยรีบเปิดประตู ภรรยาก็เดินเข้าไปที่ห้องน้ำ หลังบ้าน เห็นรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ จึงรีบเดินออกมากบอกกับตนว่าอยู่ๆ ตนเองก็เลยถามว่าอะไรอยู่ คนหรือเปล่า ภรรยาบอกว่าไม่ใช่ๆ มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ก็เลยวิ่งเข้าไปดูทันที ดูแล้วก็เลยรู้ว่าไม่ใช่รถแถวนี้และไม่ใช่ปกติแล้วแบบนี้ เพราะว่ารถสีดำป้ายทะเบียนก็ไม่มีหมวกกันน็อกสีดำก็วางผิดปกติแล้ว ก็รีบออกมา เพื่อไปหาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อปรึกษาแล้วก็ไปติดต่อกับกำนัน ซึ่งกำนันก็ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ และนำกำลังเข้ามาตรวจสอบ
ส่วนคนที่มาขอเช่าบ้าน เขาปิดหน้าเพราะสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ทำตัวลุกลี้ลุกลน ก้มหน้าตลอด เล่นแต่โทรศัพท์ ตนและภรรยาจำหน้าตาไม่ได้เพราะปิดหน้าเหลือแต่ลูกตาลักษณะรูปร่างเพราะเป็นตอนกลางคืน ไฟไม่ค่อยสว่าง ส่วนตนเองและภรรยาก็มองไม่ค่อยชัดแค่ดูผ่านๆส่วนคนที่ขอเช่าบ้านเขาก็บอกว่าจะขอกลับก่อน โดยวันที่มาติดต่อเขาก็ให้เงิน 3,000 บาท วันนั้นคนขอเช่าบ้าน วันที่ 7 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ถ้าจำไม่ผิด หลังจากนั้นตนและภรรยาก็ไม่ได้มาดูก็เข้าใจว่าเขามาอยู่แล้ว ถามคนข้างบ้านเขาบอกว่าไม่เห็นใคร เข้าใจว่ายายข้างบ้านไม่สังเกต แกอาจจะไปตัดยางตอนกลางวัน กลางคืนก็อาจจะปิดประตูเข้านอน เพราะยายข้างบ้านนอนหัวค่ำ ที่นี้ก็ไม่รู้ว่ารถจักรยานยนต์มาช่วงไหนเวลาเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จริงๆ พึ่ง
มาเจอในวันนี้ ตนเองกลัวเลยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเราด้วย”
ขณะที่ หน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เป็นฝีมือนายบูคอรี หลำโส๊ะและนายนอสารี หลำโส๊ะ สองพี่น้องฝาแฝด RKK ระดับปฏิบัติการ ซึ่งได้ร่วมกับกลุ่ม RKK จากพื้นที่กรงปินัง ปฏิบัติการปล้นรถส่งของแล้วนำระเบิดซุกในรถ ก่อนนำไปจอดไว้บริเวณหลังแฟลตตำรวจ สภ.รามัน เนื่องจากเป็นกลุ่มคนร้าย ที่มีความเชี่ยวชาญในการปล้นรถเพื่อทำคาร์บอม ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยก่อเหตุปล้นรถบรรทุกไม้บริเวณป่าช้าจีน เขต อ.เมือง จ.ยะลา แล้วนำไปก่อเหตุคาร์บอมหน้า ศอ.บต. รวมถึง ปล้นรถยนต์จากเต้นท์รถในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อนำไปทำคาร์บอม แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดไว้ได้ และยังปล้นร้านทองในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ได้ทองรูปพรรณจำนวนมาก ขณะนี้ คนร้ายกลุ่มนี้ น่าจะแยกย้ายกันหลบหนีเข้าพื้นที่บริเวณรอยต่อ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส บางส่วนหลบหนีเข้า อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งปูพรมติดตามตัวผู้ก่อเหตุแล้ว