เด็กวัย 13 ปี กุเรื่องโดนน้าชายทุบตีทำร้ายร่างกาย ก่อนร้องขอไปทางเพจให้เข้าช่วยเหลือ

เด็กนาทับวัย 13 ปี กุเรื่องโดนน้าชายทุบตีทำร้ายร่างกาย ก่อนร้องขอไปทางเพจให้เข้าช่วยเหลือ สุดท้ายตรวจสอบเป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ระหว่างกินยารักษา

จากกรณีมีเพจเฟซบุ๊คชื่อ อีซ้อขยี้ข่าว ได้นำภาพเด็กนักเรียนคนหนึ่งสวมชุดพละสีชมพูของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งอาศัยอยู่พื้นที่ ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา อ้างว่าถูกคนในครอบครัวซึ่งเป็นน้าชายได้ทุบตีทำร้ายร่างกายทุกวัน พร้อมข้อความขอความช่วยเหลือกับทางเพจดังกล่าว ก่อนจะมีการแชร์เรื่องราวออกไป


ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 86/1 หมู่ที่ 12 บ้านปากจด ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ได้พบกับ นายสอแหล๊ะ ขุนพักษ์ดี อายุ 60 ปี (ตา) นางสากีเยาะ ขุนพักษ์ดี อายุ 50 ปี (ยาย) และ ด.ช.สิรภาพ พันธุ์จำปี หรือ น้องซาน อายุ 13 ปี ซึ่งจากการพูดคุยกับทางครอบครัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่า พ่อแม่ของน้องซานได้เลิกกันไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้องซานได้ไปอยู่กับพ่อ ก่อนที่แม่จะรับกลับมาอยู่ที่นี่ นิสัยของน้องซานจะเป็นเด็กดื้อ มีโลกส่วนตัวสูงเป็นเด็กฉลาดและเก่ง


ส่วนที่เป็นข่าวนั้นมาจากสาเหตุน้องซานได้ซื้อหนูแฮมเตอร์มาเลี้ยงที่บ้านไว้ 1 ตัว โดยใส่กรงเอาไว้ โดยปกติน้องซานจะซื้อน้ำแข็งมาใส่ในถาดไว้ในกรงหนูหลังน้ำแข็งละลายน้องชายของน้องซานวัย 3 ขวบ ได้เดินมาที่กรงหนูแล้วยกถาดน้ำออกมา จึงทำให้น้ำในถาดหกไปโดนตัวหนูแฮมเตอร์จนตัวเปียก จากนั้นน้องซานได้วิ่งไปเอาไม้แขวนเสื้อพลาสติกมาตีที่ขาน้องชายวัย 3 ขวบ จนเป็นรอยแดงทางยาวถึง 3 ครั้ง เป็นรอยแดงขึ้นมาทำให้น้องชายเกิดร้องเสียงดังและเป็นจังหวะเดียวกันที่น้าชายเดินเข้ามาเห็นพอดี น้าชายจึงได้คว้าไม้แขวนเสื้อที่น้องซานถืออยู่ตีไปที่ขาน้องซาน 1 ครั้ง ก่อนจะพูดว่า รู้สึกเจ็บเหมือนน้องไหมเวลาโดน ฉะนั้นอย่าทำน้องแบบนี้ เราเป็นพี่เราควรสอนน้อง ไม่ใช่การตี

แต่น้องซานได้พูดสวนและด่าน้าชายกลับไป ว่า ทำไมน้ายังเขกหัวน้องได้ ทำไมซานทำไมได้ หลังพูดจบทำให้น้าชายเกิดอาการโมโห จึงได้เดินไปเอาสายไฟฟาดไปที่ขาอีก 2 ครั้งจนเป็นรอยช้ำแดง ทำให้น้องซานเกิดอาการน้อยใจและโกรธน้าชาย จึงได้ถ่ายรูปที่เป็นรอยถูกตีก่อนพิมพ์ข้อความเท็จส่งไปที่เพจหนึ่งก่อนจะมีการแชร์กันออกไปเป็นจำนวนมากจนเข้าใจผิดว่า น้องซานโดนทารุณกรรมทุกวัน ตนจึงขอยืนยันตรงนี้ว่า ไม่มีการตีหลานแบบขาดสติแน่นอนและตีแบบสั่งสอนซึ่งจะมีนานๆครั้งที่จะตี นอกจากนี้ปัจจุบันน้องซานเป็นโรคสมาธิสั้นซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวอยู่
ในขณะนี้


ส่วนทางด้าน น้องซาน หลังเกิดเรื่องน้องซานก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสัญญาต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว และยอมรับว่าตัวเองอยู่ระหว่างกินยารักษากับโรคตัวเอง
ส่วนทางอาจารย์ที่ปรึกษาของน้องซานโรงเรียนดังกล่าวที่ทางแอดมินเพจนำมาโพสต์ลงในโซเชียลนั้น ทางโรงเรียนไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใดกับการกระทำของน้องซานที่ส่งภาพและข้อความขอความช่วยเหลือไปทางเพจนั้น จนทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ทาง ผู้อำนวยการของโรงเรียนไม่พอใจกับภาพป้ายชื่อของโรงเรียนและภาพน้องซานใส่ชุดพละของโรงเรียนนำไปโพสต์ลงในโซเชียล ดังนั้นทางโรงเรียนจะดำเนินการเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางเพจดังกล่าว ซึ่งไม่ยอมตรวจสอบข้อมูลความเป็นจริงให้ชัดเจนว่าเรื่องราวนั้นเป็นมายังไง

 

ส่วนพฤติกรรมของน้องซานเวลามาโรงเรียนจะมีพฤติกรรมชอบแกล้งเพื่อนและคุณครูจนคนที่โดนแกล้งทนพฤติกรรมไม่ไหว จนมีการหักคะแนนจิตพิสัยจนหมดจนไม่มีคะแนนจะหักแล้วซึ่งที่ผ่านมาทางอาจารย์ได้เรียกผู้ปกครองเข้าพบอยู่ตลอดเวลา จนมาทราบว่าน้องซานเป็นโรคสมาธิสั้นและอยู่ระหว่างกินยารักษาอยู่ หลังจากนี้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนจะเรียกประชุมครูที่ปรึกษา ฝ่ายปกครองและปู้ปกครองของน้องซานอีกครั้งกับพฤติกรรมของน้องซานล่าสุดที่ได้ทำไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเชิญน้องซานออกจากโรงเรียนถาวรจริงๆ ในครั้งนี้จากพฤติกรรมของน้องซานที่ไม่ผ่านมาตราฐานของโรงเรียนต่อไป.

#นสพใต้สันติสุข

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *