สืบคอหงส์ซ้อนแผนจับนักข่าวท้องถิ่นกรรโชกทรัพย์ร้านเหล้าเดือนละ 3 พันบาท มานาน 5 ปี ก่อนไลฟ์สดโจมตีร้านเหล้า หลังขอเก็บเพิ่มเป็น 1 หมื่นบาท
วันที่ 22 มีนาคม 2564 เจ้าของร้านแก๊สโซลีน ร้านอาหารขายเหล้า ย้อนรอยนักข่าวของหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังถูกบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เกียรติ์ศักดิ์ กรรโชกทรัพย์เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ขณะส่งเงินให้นักข่าวเป็นตัวแทนมารับเงิน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรคอหงส์เข้าจับกุมทันที สารภาพบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นใช้ให้มารับเงิน ส่วนตนเองไม่รู้เรื่อง
พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.คอหงส์ เข้าสอบสวนปากคำ น.ส.สุภากาญจน์ ศิริธร นักข่าวของหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในอำเภอหาดใหญ่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ เข้าจับกุมตัวได้ภายในร้านแก๊สโซลีน ซึ่งเป็นร้านอาหารและร้านขายสุรา ตั้งอยู่ย่านตัวเมืองหาดใหญ่ พร้อมเงินในซองสีชมพูจำนวน 10,000 บาท ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คอหงส์ เนื่องจากก่อนหน้าที่เจ้าของร้านแก๊สโซลีน แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกนักข่าวเรียกเก็บเงิน โดยได้นัดให้นักข่าวมารับเงินที่ร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปยังร้านแก๊สโซลีนทันที กระทั่งจับกุมตัวน.ส.สุภากาญจน์ ไว้ได้
จากการสอบสวน นางสาวสุภากาญจน์ สารภาพว่า ตนเองทำงานอยู่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฯ ดังกล่าวอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจสอบหลักฐานแต่นางสาวสุภากาญจน์ ยอมรับว่าไม่มี ก่อนหน้านี้นายศุภชัย ขันธสิทธิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้ให้ตนเองมารับเงินโดยบอกว่าเป็นค่าโฆษณา สนับสนุน หนังสือพิมพ์ดังกล่าว ตนจึงเดินทางมารับเงิน และถูกจับกุมตัวดังกล่าว โดยตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย นายศุภชัยซึ่งเป็นเจ้านายใช้ก็มา หลังจับกุมมาเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามเบอร์โทรศัพท์ติดต่อนายศุภชัย ซึ่งน.ส.สุภากาญจน์ อ้างว่าตนเองไม่ทราบเบอร์ติดต่อ เวลาติดต่อจะโทรเข้าสำนักงานเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์ ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อนายศุภชัยได้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีหนังสือเรียกนายศุภชัยมาสอบปากคำ หากไม่มาเจ้าหน้าที่จะทำการออกหมายจับต่อไป
ส่วนพฤติกรรมของนายศุภชัย ผู้สื่อข่าวได้ทราบมาว่า นายศุภชัยได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ มักจะไปเรียกเก็บเงินตามร้านเหล้าต่างๆ ในตัวเมืองหาดใหญ่เกือบทุกร้าน ร้านละ 3,000 บาท หากร้านไหนไม่ยอมจ่ายก็มักจะไปไลฟ์สดปรักปรัมว่าร้านดังกล่าวทำผิดกฎหมาย ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรับผิดชอบลงมาจัดการร้านนั้นๆ ทำให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงจึงจำยอมยอมจ่ายเงินไป เพียงเพราะไม่อยากมีปัญหา ส่วนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานหากไม่ลงพื้นที่มาจัดการก็จะเขียนข่าวลงโจมตีในหนังสือพิมพ์ของตัวเพื่อตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่จนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด
ล่าสุด นายประชา เลิศวรลักษณ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านแก๊สโซลีน พร้อมกับตัวแทนผู้ประกอบการร้านเหล้า ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.กีรติ ตรีวัย รอง ผกก.สอบสวน.สภ.คอหงส์ พร้อมนำคลิปจากกล้องวงจรปิดและคลิปจากโทรศัพท์มือถือขณะที่ น.ส.สุภากาญจน์ เดินทางมารับเงินที่ร้าน ก่อนที่นายประชาเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดนายศุภชัย ขันธสิทธิ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอำเภอหาดใหญ่ ได้บังคับเรียกเก็บเงินจำนวน 10,000 บาท กับทางร้านแก๊สโซลีน
ส่วนคลิปดังกล่าวเป็นคลิปเหตุการณ์ที่ น.ส.สุภากาญจน์ เดินทางมารับเงินจำนวน 10,000 บาท หลังนายประชาเดินทางเข้าแจ้งความ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ ร่วมกันซ้อนแผนจับกุมตัว