29 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองของนายตะวัน (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ซึ่งถูกเจ้าที่ทหารพรานทำร้ายบาดเจ็บที่ศีรษะเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ที่ก่อเหตุทำร้ายลูกชายของตนเองบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 มีนาคม 64 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้อาการยังน่าเป็นห่วงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพราะผู้บาดเจ็บมีอาการเจ็บที่ศีรษะตลอดเวลาพร้อมกับมีไข้สูงแต่รู้สึกตัวดี
นายไชยยงค์ (นามสมมุติ) พ่อของผู้บาดเจ็บบอกว่า ปกติลูกชายของตนไม่ชอบหาเรื่องใครแต่ก็ชอบไปกับกลุ่มเพื่อนๆที่หมู่บ้านเป็นประจำ วันเกิดเหตุก็ออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิม แต่ด้วยลูกชายของตนเองเป็นคนที่เคยได้รับอุบัติเหตุมาก่อนต้องผ่าตัดที่ศีรษะทำให้ศีรษะบางส่วนไม่มีกะโหลกหุ้ม ทำให้การที่ถูกทหารพรานที่ทำร้ายร่างกายโดยการตบที่ ศีรษะจึงเกิดการกระทบกระเทือนกับสมองอย่างมาก ซึ่งอาการตอนนี้คุณหมอได้ทำการส่งตัวจากโรงพยาบาล อ.หว้านใหญ่ มารักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหารเพราะอาการยังน่าเป็นห่วงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพราะผู้บาดเจ็บมีอาการเจ็บที่ศีรษะตลอดเวลาพร้อมกับมีไข้สูง และมาวันนี้ก็จะมาแจ้งความไว้ก่อนพร้อมกับยื่นยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านนายอภิสิทธิ์ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เพื่อนของผู้บาดเจ็บได้บอกว่า วันเกิดเหตุ ในวันที่ 28 มี.ค.64 ประมาณช่วงเที่ยงคืน ตนเองพร้อมเพื่อประมาณ 4 คนได้ไปนั่งสังสรรค์ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณ สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 แล้วมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขับรถจักยานยนต์มาบิดเครื่องยนต์ เพื่อท้าทายตนจึงยอมไม่ได้ ก็เลยขับรถจักยานยนต์ไปบิดเครื่องยนต์ท้าทายเช่นกัน ก่อนจะเกิดการมีเรื่อง จะซกต่อยกันทั้ง 2 ฝ่ายนัดมาคุยกันเพื่อเคลียร์ใจ
ระหว่างที่เคลียร์ใจกันนั้นก็มีคนคนหนึ่งที่อยู่อีกฝ่าย ได้โทรหาลูกพี่ใหญ่ซึ่งระบุว่าเป็นทหารพราน ให้มาร่วมเคลียร์ด้วย จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็จับมือเคลียร์กันจบเรียบร้อย ก่อนลูกพี่ใหญ่จะมาถึง แต่พอลูกพี่ใหญ่ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าเป็นทหารพรานมาถึง ก็ไม่ทันได้ถามว่าเป็นยังไงกัน ก็ตรงเข้ามาทำร้ายนายตะวันทันทีด้วยการตบที่หัวอย่างรุนแรงจนต้องนำส่งโรงพยาบาล เกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง ร.อ.ธนพงศ์ โพธิ์ปาน ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2110 ฉก. ทพ. 21 พร้อมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บริเวณที่เกิดเหตุ ร.อ.ธนพงศ์ โพธิ์ปาน ได้ให้ข้อมูลว่าตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุและข้อเท็จจริงต่อไป
ที่มา: แนวหน้า