บุกจับคากระท่อมปลายนา หนุ่มคลั่งฆ่าแม่วัย 87 บอกคำสั่งเทพเจ้าให้ลงมือ เพราะปอบสิงแม่ ถ้าไม่ทำทำตัวเองจะตาย คว้าปืนหน้าไม้รับทุบหัวจนสิ้นใจ
วันที่ 29 มี.ค.64 พ.ต.ท.รณพงษ์ จรสาย สารวัตร (สอบสวน) สภ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.สว่าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จุมพล สุวนาม ผกก., พ.ต.ท.พงษ์พัฒน์ เหิมฉลาด รอง ผกก.สส. และกำลังตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวปลูกติดกัน 2 หลัง ที่บ้านหลังแรกพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางปุ่น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 87 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณระเบียงหน้าบ้าน สภาพถูกตีด้วยปืนหน้าไม้ที่ศีรษะจนกะโหลกแตก ที่ประตูหน้าบ้านยังพบร่องรอยถูกทุบทำลายจนเสียหายบางส่วน
จากการสอบถามหลานสาวที่พักอยู่ในบ้านทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายของผู้ตาย ชื่อ นายณรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ซึ่งพักอาศัยในบ้านอีกหลังที่ปลูกอยู่ติดกัน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป คาดจะไปอยู่ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน
จากนั้น พ.ต.ท.พงษ์พัฒน์ เหิมฉลาด รอง ผกก.สส. จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมกระท่อมนา จนสามารถจับกุมตัว นายณรงค์ เอาไว้ได้ พร้อมกับปืนหน้าไม้ที่ใช้ก่อเหตุ โดย นายณรงค์ ให้การรับสารภาพว่า ช่วงเช้ามืดขณะที่แม่ออกมาเดินเล่นอยู่ระเบียงหน้าบ้าน ส่วนตนนั่งสมาธิอยู่ในบ้านหลังติดกัน ก็ได้รับคำสั่งจากเทพประจำตัวให้ฆ่าแม่ของตัวเอง เพราะถูกผีปอบเข้าสิง ไม่เช่นนั้นตนจะต้องถูกฆ่าแทน จึงใช้ปืนหน้าไม้ตีที่ศีรษะของแม่หลายสิบครั้ง จนเสียชีวิคาที่
เมื่อถามว่ารู้ตัวหรือไม่ว่า ทำอะไรลงไป นายณรงค์ ก็ยอมรับว่า รู้ว่าต้องฆ่าแม่ตามที่เทพประจำตัวสั่ง ซึ่งญาติของ นายณรงค์ ระบุว่า ก่อนหน้าหลายปีมาแล้ว นายณรงค์ เคยเข้ารับการรักษาอาการจิต ก่อนกลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังติดกัน ต่อมาเมียของ นายณรงค์ ได้ขอเลิก เพราะ นายณรงค์ มีอารมณ์แปรปรวน จึงต้องอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว และชอบไปนั่งสมาธิที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านที่ถูกจับได้เป็นประจำ จากนั้นจึงนำตัว นายณรงค์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และให้กราบขอขมาศพของแม่ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี
ขอบคุณภาพข่าว ข่าวสด