#เรือดำน้ำอินโดนีเซียสูญหาย (2)
ความหวังในการช่วยเหลือลูกเรือหลายสิบคนของเรือดำน้ำKRI Nanggala 402 กำลังริบหรี่ลง
เนื่องจากเชื่อว่าปริมาณออกซิเจนจะหมดลงในวันนี้
เจ้าหน้าที่ทหารหลายร้อยนายกำลังรีบเร่งทำการค้นหา
ทางการแจ้งว่าเรือดำน้ำลำนี้ที่ผลิตในเยอรมันมีออกซิเจนเพียงสามวันหลังจากขาดการติดต่อตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาสามวันจะสิ้นสุดลงในวันนี้ ในขณะที่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก กับการค้นหาเรือดำน้ำที่บรรทุกลูกเรือ 53 คน
เรือดำน้ำลำนี้ เป็นหนึ่งในห้าของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ได้สูญหายไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาขณะอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดในน่านน้ำบาหลี
ตามที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า KRI Nanggala 402 ซึ่งผ่านการปรับปรุงมาหลายครั้ง ได้เข้าร่วมในการฝึกซ้อมทางเรือนอกชายฝั่งบาหลี และเมื่อได้รับการอนุญาตให้ดำลงได้ ก็กลายเป็นการสื่อสารครั้งสุดท้ายไปเลย
หลายคนคาดว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ในภารกิจค้นหานี้ ครอบครัวลูกเรือหมั่นดูอาอ (ภาพที่ 2)
และจากข่าวที่พบคราบน้ำมันก่อนหน้านี้ มีการวิเคราะห์ 2 กรณี คือ
1. มีการพยายามปล่อยน้ำมันออกจากลูกเรือ เพื่อให้เรือได้ลอยขึ้น กับ
2. ถังน้ำมันแตกแล้ว หรือถังน้ำมันเสียหายและอาจนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรง
และหากเรือดำน้ำเมื่อจมลงสู่ก้นทะเลที่ระดับ 700 เมตร ก็น่าจะเกินขีดความสามารถของลำเรือต่อแรงกดดันจากใต้น้ำลึก
จนถึงตอนนี้้ทางการยังไม่ได้แจ้งถึงความเป็นไปได้ใด ๆ
#หลายประเทศเพื่อนบ้านส่งทีมช่วยเหลือ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา มีการนำเรือรบเกือบ 24 ลำออกทำการค้นหา ครอบคลุมพื้นที่ 34 ตารางกิโลเมตร
คืบหน้าล่าสุด (ตั้งแต่เมื่อวาน) กองทัพอินโดนีเซียได้ประกาศการตรวจพบวัตถุที่มีแรงแม่เหล็กสูง ที่ระดับความลึกระหว่าง 50 ถึง 100 เมตรซึ่งจุดประกายความหวังในการค้นพบเรือดำน้ำ แต่ตอนนี้ยังไม่พบ
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้อินโดนีเซียถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบเหตุการณ์ร้ายแรงเกี่ยวกับเรือดำน้ำ
เรือ KRI Nanggala 402 มีน้ำหนัก 1,300 ตัน เป็นประเภท 209 ใช้น้ำมันดีเซล – ไฟฟ้า เป็นเรือดำน้ำโจมตีที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2521 และส่งมอบให้อินโดนีเซียในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2524
เรือลำนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2532 ที่เยอรมนีและในปี 2555 ที่เกาหลีใต้
โดยมีการเปลี่ยนโครงสร้างและอัพเกรดระบบขับเคลื่อนโซนาร์และอาวุธ.
จะมีปาฏิหาริย์หรือไม่สุดท้ายที่วันนี้
Daud Abdulrahman
ภาพ/ข้อมูล : สำนักข่าว เอเอฟพี, bharian online, detik.com