สาววัย 38 ปี ที่สะเดา สงขลา โพสต์เฟซ “ทหารรุมทำร้ายประชาชน” ก่อนแจ้งตำรวจ ระบุ จะไปกรีดยางแต่จยย.ยางรั่ว เลยลงมาอาศัยแสงไฟหน้าค่าย แล้วให้แฟนไปบอกพ่อมารับ ถูกทหารชื่อ จ่าบอย จอดรถถาม มาทำไม ก่อนทำร้ายตบตี พอแฟนมาถึงก็มีทหารคนอื่นมาช่วยรุมทำร้ายจนเจ็บหนักยังนอนรพ.
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63 ภายหลังมีการแชร์ภาพ และคลิปในเฟซบุ๊ก Kung Wanwisa ระบุเหตุเกิดเวลาประมาณ 01.45 น.
“ทหารรุมทำร้ายประชาชน บริเวณค่ายทหารทับโกบ เนื่องจากเวลาดังกล่าว ดิฉันต้องไปบ้านสวน เพื่อไปตัดยางกับพ่อ โดยสามีขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งทุกวัน วันนี้เกิดเหตุฉุกเฉินยางรั่ว บริเวณหน้าค่ายพักทหารบ้านทับโกบ สามีจึงอาสาขี่มอเตอร์ไซค์ที่ยางรั่วไปบ้านสวนเพื่อให้พ่อมารับ ดิฉันจึงนั่งรอบริเวณทางเข้าค่ายซึ่งมีไฟส่องสว่าง ซักครู่ใหญ่ ๆ มีรถยนต์กระบะฟอร์ดสีขาวมา ลดกระจกถามว่า #มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรตรงนี้ ตอนแรกก็ตอบไปดีๆ ว่ารถยางรั่ว แต่ก็ยังถามว่ารถมึงอยู่ไหน แฟนมึง พ่อมึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูตบให้เลย หลังจากคุยไม่รู้เรื่อง เจ้าของรถก็ลงมา ทำร้ายตบตี เตะด้วย ดิฉันจึงร้องให้ทหารช่วย พอทหารมาก็ไม่กล้าช่วย บอกให้เป็นพยานก็ไม่เป็น
เจ้าของรถทราบทีหลังคือ จ่าบอย ถามทหารเข้าเวรว่า มึงจะเป็นพยานให้มันมั้ย ทหารผู้น้อยตอบว่า ไม่ครับ หลังจากนั้นพ่อมา จึงไปเรียกตำรวจที่ป้อมทับโกบมา ตามในคลิป หลังจากนั้นจ่าบอยก็แย่งโทรศัพท์ไปโยนทิ้ง พอสามีทราบเรื่องตามมา จึงเกิดการทะเลาะสิวาทเนื่องจากจ่าบอยทำร้ายร่างกายดิฉัน และเกิดการรุมทำร้ายจากจ่าบอย และทหารเกณฑ์ที่เข้าเวรอยู่ รวม 4 คน โดยการใช้ท้ายปืนตี กระทืบที่หน้าและหัวด้วยรองเท้าคอมแบต ผลการตรวจมีแผลฉีกขาดที่หัว คิ้วและปาก แอตมิดดูอาการทางสมอง ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ทหารดี ๆ มีเยอะ แต่ทหารเลว ๆ เพิ่งจะเจอนี่แหละ”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา พบกับ น.ส.วรรวิษา แช่สือ อายุ 38 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Kung Wanwisa ที่โพสต์ข้อความและคลิปดังกล่าว เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสามีชื่อนายสุรศักดิ์ แก้วจันทร์ อายุ 44 ปี ตอนนี้ ยังมีอาการยังปวดหัวอยู่ตลอด ต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ สะเดา
ขณะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีฝ่ายทหาร คือ จ่าบอย มากล่าวแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าเมา และทำร้ายร่างกายสุรศักดิ์ แก้วจันทร์ จริง แต่ไม่ยอมรับที่ทำร้ายร่างกาย น.ส.วรรวิษา แช่สือ และขอความรวมมือให้ลบคลิปและภาพที่ลงเฟซบุ๊ก ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องรอสอบปากคำพยานให้ครบก่อนถึงจะแจ้งข้อหา
ด้าน น.ส.วรรวิษา แช่สือ เล่าว่า เมื่อคืนกำลังจะไปตัดยาง ซึ่งปกติ ประมาณตี 1 ตี 2 ก็จะให้สามีขี่มอเตอร์ไซค์จากบ้านไปส่งที่บ้านพ่อ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร แต่บังเอิญเกิดเหตุรถยางรั่ว ก็เลยบอกสามีว่าขี่รถที่ยางรั่วไปบ้านพ่อ และตัวเองไปนั่งรอตรงปากทางเข้าค่าย เพราะว่ามีไฟส่องสว่าง จากนั้นมีทหาร 2 คนเดินออกมาถาม แต่มาไม่ถึงเพราะว่าหมาเห่า และถามว่ามาทำอะไรครับ ก็เลยบอกไปว่า น้องรถพี่ยางรั่ว น้องจำพี่ได้มั้ยเขาก็บอกครับ ๆ แล้วก็เดินจากไป
ประมาณ 5 นาที รถของผู้ก่อเหตุมาถึง ลดกระจกและ “ถามคำแรกเลยนะคะว่า มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรตรงนี้ ทั้ง ๆที่เรากำลังนั่งรออยู่ใส่ชุดจะไปตัดยาง มึงมานั่งทำเหี้ยอะไรตรงนี้ ก็บอกเขาไปดีๆว่าเนี่ยรถยางรั่วแฟนกำลังเอารถไปเปลี่ยน เดี๋ยวพ่อมารับจะไปตัดยาง แต่ก็ยังถามว่ารถมึงอยู่ไหน แฟนมึง พ่อมึงอยู่ไหน เขาก็พูดวกไปวนมาเหมือนคนเมา พอพูดไปหลายครั้งก็เลยถามเขาไปว่าทำไมไม่พูดดีๆ ทำไมต้องขึ้น มึง ขึ้นกูด้วย เขาเลยบอกว่ามึงรู้มั้ยกูเป็นใคร เดี๋ยวกูตบให้เลย พอเขาลงจากรถหนูพยายามจะหยิบโทรศัพยมือถือ แต่เขาก็แย่งมือถือไปแล้วก็ตบเข้าที่หัวพอล้มลงไปเขาจะเตะซ้ำ เลยเอามือรองไว้ ก็มีทหารที่อยู่ในค่ายวิ่งออกมาหนึ่งนาย แต่ไม่กล้าช่วย บอกให้เป็นพยานก็ไม่เป็น ส่วนเจ้าของรถทราบทีหลังคือจ่าบอย”
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า เขาถามทหารเข้าเวรว่ามึงจะเป็นพยานให้มันมั้ย ทหารผู้น้อย ตอบว่าไม่ครับจ่า และเขาก็พูดสรรพคุณตัวเองว่าเป็นคนที่นี้นะ คนสะเดาชื่อจ่าบอย ถึงได้รู่ว่าเขาชื่อจ่าบอย แต่เขายังพูดประโยคเดิมว่ามึงมานั่งทำเหี้ยอะไรตรงนี้ จนพ่อโทรโทรศัพท์มา เขาก็รับสาย พอพ่อมาถึงเขาคืนโทรศัพย์ไห้พ่อเราก็เลยโทรหาแฟน พ่อเดินไปที่ป้อมตำรวจ ตามตำรวจที่เข้าเวรมาจากนั้นประมาณ 5 นาที ตำรวจมา แต่ระยะเวลา 5 นาทีเขาต่อว่าตลอดก็โทรบอกแฟนว่า มีคนมาตบกุ้งแฟนก็พาลูกมา
“เหมือนตามในคลิปค่ะ ก่อนที่แฟนจะมา พอแฟนมา ถามว่ามึงมาตบเมียกูอะไรอย่างนี้ หลังจากนั้นจ่ามน จ่าที่มาพูดตอนแรกขอว่าอย่าทะเลาะกัน แฟนหนูจะเดินไปขึ้นรถแล้ว แต่จ่าบอยเขาก็ปรี่เข้ามาต่อยแฟน และทหารอีก 3 คนที่ตามมาช่วยกันรุมจนแฟนหนูสลบไป โดยการใช้ท้ายปืนตี และกระทืบที่หน้าและหัวด้วยรองเท้าคอมแบต ผลการตรวจมีแผลฉีกขาดที่หัว คิ้วและปาก ตอนนี้ยังนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสะเดา รอดูอาการที่สมอง ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรเลยค่ะ เพียงแต่ว่าแค่เรื่องเล็กๆที่ไปอาศัยไฟส่องสว่างตรงนั้น แล้วเขาเป็นคนของประชาชนทำไมเขาถึงพูดจากับเราแบบนี้ ถ้าเขาเปลี่ยนคำพูด จากแค่มีปัญหาอะไรครับให้ผมช่วยอะไรมั้ยครับ มันจะดีกว่ามั้ยและเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้น”
Cr.ไทยรัฐออนไลน์