ดราม่าหนุ่มยะลาโวยสถานที่กักตัว สุดห่วย

ดราม่าหนุ่มยะลาโวยสถานที่กักตัว “สู้ภัยโควิด-19 ยะลา”สุดห่วยขาดระบบ

วันนี้ 7 ธ.ค.63 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบภาพส่วนหนึ่งที่ถูกโพสต์อยู่ในเฟซบุ๊กคุณ “Sola Bin Nur-Achikeen” 1 ในคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ผ่านด่าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 30 พ.ย.63 ที่ผ่านมา เพื่อมากักตัว 14 วัน “สู้ภัยโควิด-19 ยะลา” ที่ สถานีที่สังเกตอาการ ระดับจังหวัด (Local Quarantine) ณ ศึกษาและพัฒนาชุมชนยะลา ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งจะเห็นว่าที่จัดเตรียมไว้ไม่ค่อยเอื้อสักเท่าไหร่ โดย

เฟสบุ๊คคุณ “Sola Bin Nur-Achikeen” ได้ไฟสอัดอั้นกับสถานที่อยู่ดังกล่าว “โพสนี้ขอรีวิวถึงสถานกักตัวของจังหวัดยะลาหน่อยน่ะ คือทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
1.วันแรกที่เดินทางถึงด่านชายแดนโกลก เพื่อรอให้รถตู้มารับไปที่สถานกักตัวจังหวัดซึ่งใช้เวลานานมาก รอรถตู้ตอน 8 -9 โมง ซึ่งยะลามีเราคนเดียว แต่ได้ขึ้นรถตอน 13.20 น. ซึ่งปกติที่รู้มาคือรถตู้จะแยกออกแต่ละจังหวัดๆไป แต่วันนั้นนั่งรอคนให้ครบ และสุดท้ายเอาคนทั้งหมดรวมกันขับรถวนไปเลย นราธิวาส ปัตตานี และยะลา คือ งบประมาณระบบเหมารวมไปอีก


2.ระหว่างนั่งรถไปที่สถานกักตัวที่ยะลา เราเลยถามคนขับรถตู้ว่าไปกักตัวที่ไหน เค้าตอบว่าเดี่ยวไปลงที่พรุบาโกย(สวนขวัญเมืองยะลา)..ซึ่งเราก็เอ๊ะใจว่ามีที่กักตัวที่นั้นด้วยหรา…ที่ไหนได้แค่เอากระเป๋าลงจากรถตู้และเค้าก็ส่งเอกสารบัตรประชาชนเราให้กรมการปกครองไหม(ถ้าจำไม่ผิด)ซึ่งที่ตรงนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย เหมือนแค่เอาเอกสารเรามากรอกเพื่อ ถ่ายรูปเหมือนรอเบิกงบ ซึ่งงงมากว่าจะทำรายการอะไรกันอีก ทำไมไม่นั่งรถตู้ลงที่กักตัวเหมือนจังหวัดอื่นๆเลย เจ้าหน้าที่ตรงนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่ถามเบียดๆว่า เปิดร้านต้มยำหรา ทำงานที่ไหน ไปทำอะไรต่างประเทศ ซึ่งในขณะที่ถามน้ำเสียงออกแนวเบียดๆสุด เราเลยตอบแบบประชดเลยว่า ทำงานสถานฑูตฯ ดูสิว่าจะถามอะไรมาอีก เพราะถ้าคุณจะเอาข้อมูลจริงคุณต้องมีข้อมูล หรือเอกสารมากกว่านี้ สุดท้ายพี่ๆแกเงียบ…ไม่พูดอะไรเยอะให้เราขึ้นไปนั่งบนรถทหารเกร๋ๆ สภาพเหมือนคนอะไรผิดมา

3.พอมาถึงสถานที่กักตัวได้แต่อึ้ง เพราะที่ๆที่ให้กักตัวเป็นแบบกักตัวแบบรวมกัน นึกว่ามาค่ายอาสาพัฒนาชุมชน ซึ่งนอนรวมกัน ห้องน้ำร่วมกัน ไม่มีการแบ่งหรือกักตัวแต่อย่างใดๆเลย (สภาพตามรูปประกอบ)


4.พอไปถึงบุปเจ้าหน้าที่สักถามประวัติและบอกว่าอะเค วันนี้พึ่งมาถึงค่ำๆ แหละจะไม่นับการกักตัวน่ะ จะเริ่มนับวันถัดไป เอ๊ะ! งง ฟังไม่ผิดจริงๆ เค้าบอกให้เริ่มนับการกักตัวในวันถัดไป ซึ่งเราเดินทางกลับไป วันที่ 30 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่บอกว่าเราจะออกไปได้คือวันที่ 15 ธ.ค.63 พอนับๆแล้วทั้งหมดคือ 16 วันเลยทีเดียว OMG!!!

5.ที่ งงมากคือ ที่กักตัวจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาเป็นสลับสับเปลี่ยนเวรทุกวัน ซึ่งแต่ละคนทำงานแบบไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย ? บางคนตอบแบบดื้อๆว่า “พี่ไม่รู้อะไรเลยน้อง…หัวหน้าเค้าว่ามา…ปลัดเค้าว่ามา” เอ๊ะ!!! งงมาก ทุกวันต้องมานั่งตามเจ้าหน้าที่ให้วัดไข้เองบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่มาไม่ตรงเวลาเลย คือแบบตามใจฉัน…ฉันสะดวกแบบนี้


6.ที่รับไม่ได้เลยคือไม่มีห้องแยกกักตัวแบบรวมสิบกว่าๆคนในที่เดียวกัน…แค่แบ่งไว้แค่ชั้น 1 สำหรับ 7 วันแรกและชั้น 2 สำหรับ 7 วันหลัง ซึ่งที่พีคสุดคือพอครบ 7 วันแรกเค้าจะเอาเราไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาล และให้กลับมารอผลอย่างน้อย 1 – 2 วัน ซึ่งในระหว่างที่รอ ทุกคนที่ไปตรวจมาก็ยังคงอยู่รวมๆกับพวกที่ยังไม่ได้ตรวจน่ะ ไม่มีการแยกใดๆ ซึ่งพวกคนที่ตรวจมาแล้วก็ค้านๆกันว่าแบบนี้ไม่ได้น่ะ มาอยู่รวมกันมันก็เสี่ยงอีก ถึงจะตรวจไปแล้วก็ตาม แต่รู้ไหมมีมนุษย์ป้าสาธารณสุขคนหนึ่งเถียงขาดใจเลยว่าอยู่วัน สองวันไม่เป็นไรหรอก OMG ! พูดออกมาได้ ไม่มีจรรยาบรรณ หรือ การรับผิดชอบต่อสังคมเลยทั้งๆที่ทุกคนที่กลับมา กลับมาแบบถูกต้อง รับผิดชอบต่อสังคมกันหมด คุณพูดแบบนั้นมาได้

7.ที่จังหวัดอื่นๆอาจจะมีปัญหาบ้างพอทราบ แต่ที่ยะลานี้คือแบบแย่สุดๆ อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมการกักตัวถึงมีความเหลื่อมล้ำได้ขนาดนี้ ทั้งที่งบประมาณต่อหัวก็เบิกจากเลขบัตรประจำตัวประชาชนถูกต้องเหมือนกัน แล้วแบบนี้จะกักตัวไปทำไม ในเมื่อการกักตัวแบบนี้มันก็ยังเสี่ยงๆเหมือนกัน
อยากให้ช่วยกันเรียกร้องสิทธิ์กันหน่อย คือเราเองก็รับผิดชอบต่อสังคมแต่คุณมาทำแบบนี้เหมือนไม่แคร์หรือปล่อยปะละเลยก็ไม่ไหวเหมือนกัน

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *