เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด นราธิวาส

ศูนย์EOC จังหวัดนราธิวาส เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่3 ในการแพร่ระบาดระลอกใหม่

(15ม.ค.64) ศูนย์EOC จังหวัดนราธิวาสเปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด- รายที่3ของจังหวัดนราธิวาส เป็นหญิงสาว อายุ 29ปี สัญชาติไทย อาชีพพนักงานในสถานบันเทิง กลับจากประเทศมาเลเซีย โดยข้อมูลประวัติการเดินทาง มีดังนี้

วันที่ 7 มกราคม 2564 ผู้ป่วยไปคลีนิกในเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีอาการไข้ ร้อนๆ หนาวๆ ปวดเมื่อยตัว แพทย์ทำการswabด้วยชุดตรวจ ผลปรากฏว่ามีโอกาสติดเชื้อโควิค 19
จากนั้นวันที่ 8 -9 มกราคม 2564 เพื่อนให้ผู้ป่วยแยกมาพักคนเดียวทำให้ผู้ป่วยมีความกังวลต่ออาการป่วย จึงตัดสินใจกลับประเทศไทย
วันที่ 10 มกราคม 2564 ผู้ป่วยชวนเพื่อนผู้หญิงอายุ 23 ปีเดินทางกลับประเทศไทย โดยใช้บริการ Grab Car เดินทางจากเมืองกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียถึงท่าเรือ แล้วนั่งเรือข้ามแม่น้ำโก-ลก ขึ้นฝั่งที่ท่าเรือบ้านท่าทราย หมู่ 7 ตำบลปาเสมัส ในเวลา 21.00 น.

จากการสอบสวนข้อมูลเชิงลึกพบว่าผู้ป่วยและเพื่อนเข้ามาพักในบ้านของชาวบ้านตั้งแต่เวลา 21.00 น. ไม่ได้ออกไปไหน
วันที่ 11มกราคม 2564 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเพื่อน ได้นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ 2คัน โดยมีรถเก๋งขับนำสัมภาระมาให้ที่หน้าสวนภูมินทร์ ตรงข้ามโรงแรมเก็นติ้ง แล้วนัดหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อนำรถจากโรงพยาบาลสุไหงโก-ลกมารับ และเข้าswabหาเชื้อ โดยมีผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สงขลา ว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19 (ภาพจากกล้องวงจรปิด นั่งรถจักรยานยนต์เข้ามาแล้วมายืนรอที่จุดนัดหมายหน้าสวนภูมินทร์โดยไม่มีการเดินเข้าไปตลาด หรือที่ชุมชนแออัด)

ผลจากการพบผู้ติดเชื้อรายนี้ ทำให้มีบุคคลสัมผัสเสี่ยงสูง ประกอบด้วย ชายชาวมาเลเซียที่ขับGrab Car 1 คน หญิงสาวที่ร่วมเดินทางมากับผู้ติดเชื้อ 1 คน บุคคลนี้swabครั้งแรกผลเป็นลบ แต่ต้องรอswabรอบสอง ขณะนี้พักรักษาตัวเพื่อติดตามอาการที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ส่วนผู้สัมผัสในชุมชนที่ผู้ป่วยได้ไปพักในบ้านและเพื่อนบ้านข้างเคียง จำนวน 14 คนได้นำมากักตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จำนวน 12 คน และอยู่ศูนย์กักกันจำนวน 2 คน โดยขณะนี้รอผลการswab ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 1 คน เพศชายพายเรือข้ามฟากซึ่งยังไม่สามารถติดตามตัวมาได้

ทั้งนี้จากการพบผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทำให้นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้ยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันชายแดนอย่างเข้มงวด มีการล้อมลวดหนามปิดช่องทางธรรมชาติที่เป็นพื้นที่เสี่ยงพบการลักลอบเดินทางเข้ามา พร้อมคาดโทษบุคคลที่เป็นผู้นำพา และให้ที่พักพิงบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะกระทบกับเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

 

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *