นายอาร์ฟาน วัฒนะ เลขาธิการ The Patani ภูมิภาค Tenggara โพสเฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า นปพ.ร่วมจากยะลาร่วมกับ ฉก.ทพ.48 นำโดยรอง ผบ.ฉก. ชื่อ รองกฤษกร ได้เข้ามาปิดล้อมบริเวณบ้านผมตั้งแต่ 4:00 am ของวันที่ 9 เม.ย. 2564
นปพ.ร่วมจากยะลาร่วมกับ ฉก.ทพ.48 นำโดยรอง ผบ.ฉก. ชื่อ รองกฤษกร ได้เข้ามาปิดล้อมบริเวณบ้านผมตั้งแต่ 4:00 am ของวันที่ 9 เม.ย. 2564
การปิดล้อมในครั้งนี้มี จนท. ผญ. และ ผช. ทุกคนปิดหน้าประมาณ 40 กว่าคน พร้อมอาวุธครบมือและโล้กำบังพร้อมจู่โจม มาด้วยรถกระบะประมาณ 13-15 คันรถ เวลาประมาณ 5.00 am. ได้มี จนท.ทพ.หญิงเรียกจากนอกรั้วบ้านให้คนในบ้านออกมาอยู่หน้าบ้านด้วยภาษามลายู ซึ่งในขณะนั้นผมและสมาชิกครอบครัวกำลังหลับอยู่ พอได้ยินเสียงดังกล่าวทีแรกเข้าใจว่าเป็นชาวบ้านมาเรียก แต่พอผมออกมาหน้าบ้านปรากฏว่าเป็น จนท.กำลังเรียกให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านให้ออกมาหน้าบ้าน ผมก็ยังมึนๆ เพราะเพิ่งตื่นนอน เลยขอเวลาทำภารกิจส่วนตัว (ล้างหน้าล้างตา เอานำ้ละหมาดเพื่อละหมาดซุบฮี) จนท.ก็ให้เวลา หลังจากนั้นทุกคนสมาชิกในบ้านก็ออกมาหน้าบ้านพร้อมบัตร ปชช.และทะเบียนบ้าน (จนท.เขาบอกให้เตรียมไว้)
ผมได้เริ่มไลฟ์สดและลงไปหน้าบ้านพร้อมเปิดประตูรั้วบ้าน ผมก็ถามว่ามาทำไม? มาหาใคร? แล้วใครเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในครั้งนี้? (ในขณะเดียวกันผมโทรถามเลขาธิการ กอรมน.4 และถามว่าจะเอาอะไรอีกจากผม? ท่านก็ตอบไม่ถูก และขอให้ผมทำตามที่ จนท.สั่ง) ผมพยายามที่จะคุยกับหัวหน้าชุดปฏิบัติการในครั้งนี้แต่เขาไม่ยอมมาคุยด้วย อยากจะบอกว่าอารมณ์ตอนนั้นคือโกรธมาก แบบว่าคุณมสล้อมบ้านผม แต่คุณยังไม่ชัดเจนว่าจะเอายังไง? ขนาดหัวหน้าหน่วยยังไม่กล้าออกมาชี้แจ้ง ได้แต่สั่งลูกน้องให้ทำโน่น ทำนี่ ผมก็ซัดไปยังลูกน้องหลายดอกอยู่ ก็พยายามบอกว่า “พวกคุณไม่ใช่หุ่นยนต์ คุณคือมนุษย์ ทำอะไรให้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์บ้าง ไม่ใช่ว่านายสั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น” และอื่นๆ เยอะเกินที่ผมซัดไป (ฟังต่อในไลฟสดในหน้าเฟสผมได้เลย) แรกก็บอกว่ารอผู้ใหญ่บ้านมาก่อน
พอผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาก็ยังไม่เข้าตรวจค้นในบ้านอีก คือผมพยายามจะให้รีบๆเข้าตรวจค้นในบ้านเพราะผมและคนในบ้ายก็มีกิจวัตประจำวันที่ต้องทำ สุดท้ายพวกเขากันเองสับสนว่าจะเอายังไ เลยประชุมด่วนแถวถนนหน้าบ้านผมว่าเอาไงต่อ ไอ้หัวหน้าหน่วยเองมันไม่ยอมาคุยด้วย ส่งแต่ลูกน้องและตำรวจให้มาคุยกับผม (ซึ่งตอนนั้นหน้าหน่วยปฏิบัติการ รอง ผบ.ฉก 48 อยู่ก่างจากจุดบ้านผมประมาณ 300 เมตร ก็ไม่เข้าใจว่ากลัวอะไรกันนักกันหนา)ทางตำรวจและลูกน้องทหารพรานก็มาชี้แจ้งให้ผม แต่ก็ไม่แสดงตัวว่าชื่ออะไรมาจากหน่วยไหน สุดท้ายมีคนหนึ่งบอกชื่อ (คนนี้เป็นตำรวจ) บอกว่ากำลังหาบุคคลตามหมาย และทะเบียนบ้านอยู่ที่นี่ ผมเนี่ยะงงเลยเพราะในบ้านนี้ไม่มีคนชื่อตามหมายจับที่เขาต้องการและแน่นอนไม่ใช่บ้านหลังนี้ (คุณคิดดูเองน่ะ ผมรอความชัดเจนตั้งแต่ 5.00 am – 6.40 am. ผลที่ได้มาคือ จนท.มั่ว)
ผมเลยเชิญให้เขาเข้าไปค้นในบ้าน แต่ขอแค่ 3 คน เขาก็โอเค ซึ่งในระหว่างนั้นหัวหน้าชุดปฏิบัติการมองอยู่ห่างๆ และมีลูกน้องค่อยอัปเดตสถานการณ์เป็นระยะๆ ( นี่แหละความห่วยของ #กฏหมายพิเศษ จนท.จะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ เวลาทำผิดก็ไม่มีคำขอโทษสักคำ ) สุดท้าย จนท.เปลี่ยนบ้านเป้าหมายและบอกว่าทางเราจะไปตรวจค้นบ้านข้างๆ ก่อนแล้วค่อยมาบ้านนี้ต่อ ผมก็รอจนกระทั่งเขาตรวจค้นบ้านข้างๆเสร็จ และมีการเก็บ DNA ของลูกบ้านดังกล่าวด้วย สุดท้าย จนท.ทุกคนก็ทยอยขึ้นรถและกลับค่าย #สรุปคือไม่เข้าบ้านผม ส่วน ฉก.ทพ.ในพื้นที่ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องตลอด ถ้าจะไปดิวกับหน่วย นปพ.ร่วม คงยิ่งไม่มีอำนาจอะไรเพราะหน่วยที่มานั้นก็อ้างถึงหน่วยเหนือตลอด ส่วนระดับนโยบายก็บอกให้ผมให้ความร่วมมือกับ จนท. สรุปคือผมต้องยอมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ จนท.ในพื้นที่ใช่ไหม?
ข้อสังเกต
– นปข. (หน่วยปฏิบัติการข่าว) มีข้อมูลไม่ชัดเจนเลยเกิดการปิดล้อมผิดบ้าน ซึ่งบ่งบอกถึงความไร้จรรยาบรรณการข่าว ผลกระทบที่ตามมาคือ ช่องว่างระหว่าง จนท.และ ปชช.ยิ่งห่างขึ้น หลังจากนี้ก็จะได้มีภาพลักษณ์ จนท.สายมวลชนสัมพันธ์เข้ามาทำความเข้าใจต่อ ก็เป็นกันอย่างนี้นี่แหละ
– 2 วันที่ผ่านมาผมออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการปล่อยตัวครูสาวที่โดยควบคุมภายใต้กฏอัยการศึก
– ผมเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง (RSD) จนท.บางคน บางหน่วย ไม่พอใจเลยคุกคามมาตลอด (ผมและครอบครัวโดนคุกคามตั้งแต่ปี 2547 จนท.ก็จะมาในลักษณะที่แต่กต่างกันไป ผมชัดเจนคือ มาดีผมต้อนรับ มาแบบเหี้ยๆ ผมก็จะไล่เหมือนไล่เหี้ย)
ข้อเสนอของผมในฐานะคนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งปาตานีตลอดระยะเวลา 17-18 ปีที่ผ่านมา
1. ยกเลิกกฏหมายพิเศษทุกฉบับ ผลกระทบคงไม่ต้องเล่าน่ะ เพราะทุกคนต่างก็รู้ดี
2. สแกน จนท.เหี้ยๆ ออกไปซ่ะ สงสารคนดีๆ ที่ต้องมารับบาปแทน จนท.เหี้ยๆ
3. ทบทวนการปฏิบัติงานของ จนท. เพราะ จนท.หลายคนใช้อำนาจเหนือกฏหมาย
4. คู่กระทำสงครามต้องต่อสู้ภายใต้กฏสงคราม
5. ประชาชนต้องกล้าออกมาปกป้องสิทธิของตนเอง
อาร์ฟาน วัฒนะ
เลขาธิการ The Patani ภูมิภาค Tenggara
9/04/2021
ชมคลิป
ขอบคุณข้อมูลจาก ArfanWattana – Patani