เตือนประชาชนมีบุคคลอ้างหลอกไปฮัจย์

ด่วนที่สุด!!! #การแอบอ้างเชิญชวน ให้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์โดยนิติบุคคลซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย

#แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด_ทุกจังหวัด
ว่ามีกลุ่มบุคคลในนามของสมาคมหนึ่ง ได้มีเอกสารเผยแพร่ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เชิญชวนพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2564 สมัครเข้าเป็นสมาชิกสามัญของสมาคม โดยมีการเรียกเก็บค่าลงทะเบียนสมาชิกแรกเข้า จำนวน 500 บาท และค่าบำรุงรายปี จำนวน 1,200 บาท รวมเป็นเงิน 1,700 บาท เมื่อสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมและชำระเงินจำนวนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว สมาคมจะแจ้งจำนวนให้สำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย จัดสรรโควตาให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกรมการปกครองในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศ ได้มีประกาศลงวันที่ เมษายน 2564 เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามแล้ว


ดังนั้น กรมการปกครองในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย
จึงขอความร่วมมือจังหวัดดำเนินการตามแนวทาง ดังต่อไปนี้

1.สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้แก่ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอน
ในการแจ้งความประสงค์เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ และลักษณะของพฤติการณ์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง โดยใช้กลไกในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนองค์กรและผู้นำทางศาสนา

2.ประชาสัมพันธ์ประกาศสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย
เพื่อแจ้งเตือนชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามซึ่งมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ให้พึงระมัดระวังการถูกหลอกลวงจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งมีพฤติการณ์ในการแอบอ้าง เช่น มีโควตาพิเศษจากหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ ได้รับสิทธิพิเศษจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มีค่าใช้จ่ายจำนวนน้อยในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ หรือมีกองทุนสนับสนุน ให้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายแต่จำนวนไม่มาก เป็นต้น

3.ในกรณีที่มีชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามแสดงตนว่าถูกหลอกลวง ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแล้วแต่กรณี ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วนำผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประสานสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการบังคับคดีจังหวัด ให้เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินคดีต่อไป

4.ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแล้วแต่กรณี ติดตามผลการดำเนินคดีและการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทราบเป็นระยะ ๆและให้รายงานกรมการปกครอง ทราบด้วย

5.ในกรณีที่พบว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกำลังกระทำการอันมีลักษณะเป็นการชักชวนเพื่อให้ใช้หรือรับบริการในกิจการฮัจย์ อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ในทางธุรกิจสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยผู้กระทำมิได้เป็นตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่ของบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบกิจการจากคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย

#ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วรายงานให้ผู้ว่าราชจังหวัด และกรมการปกครอง ทราบโดยเร็ว

กองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์
กลุ่มงานอำนวยความสะดวกพิธีฮัจย์
โทร. 02-2421460 ต่อ 111, 112

 

อ่านต่อ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *